
ในศตวรรษที่ 21 ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ถูกพัฒนา ไปพร้อมๆกับการเรียกร้องสิทธิความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย และสิทธิของคนที่ไม่ใช่หญิงหรือชายที่ควรต้องมีความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง สังคมไทยดูเหมือนจะก้าวอย่างล่าช้า เนื่องจากสังคมไทยภูมิใจในความเป็นไทย เพราะได้สร้างผู้หญิงไทยที่อ่อนหวานและรักนวลสงวนตัว สังคมไทยเปิดรับความเป็นวัฒนธรรมตะวันตก และใช้เทคโนโลยีของตะวันตก แต่ปิดรับเสียงตะโกนของนักปฏิวัติทางวัฒนธรรม นักสิทธิมนุษยชน และเหล่านักกิจกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ออกมาเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมของชายหญิง และเพศอื่นๆ ในสังคม และประชาคมโลก กะเทยไทยอย่างชั้นได้แต่เฝ้าดูปรากฏการณ์ของสังคมไทยในกระแสโลกที่คนขาดสัญญาณ 3G หรือ 4G ไม่ได้อย่างขำไม่ออก เพราะสิ่งที่ชั้นเห็นคือความใจแคบของคนที่ใช้ศีลธรรมเพื่อควบคุมคนที่มีอำนาจน้อยกว่าในสังคม อย่างเช่นกรณีดังของกะเทยสองคนที่ออกมาเต้นเปลือยในเพลง “แน่นอก”
กรณีน้องกะเทยเต้น “แน่นอก” สั่นคลอนบรรทัดฐานและศีลธรรมของสังคมไทย แน่นอนว่าน้องกะเทยทั้งสองถูกทำโทษทั้งทางกฎหมาย จากผู้เข้าชมคลิปเต้นเปลือยดังกล่าว และจากสื่อมวลชน ทั้งๆที่อำนาจในการชมเป็นของผู้ชม แต่ผู้ผิดผู้เดียวคือผู้ที่อยู่ในคลิปวีดีโอ ความคิดเห็นของผู้ชมต่อคลิปเต้นเปลือย “แน่นอก” ก็เต็มไปด้วยรุนแรง อคติ และสื่อให้เห็นฐานคิดเรื่องเพศที่คับแคบของสังคมไทย สำหรับชั้นน้องกะเทยทั้งสองได้ท้าทายความคิดเรื่องเพศแบบสองขั้วคือชายและหญิง เพราะน้องทั้งคู่ได้ทำให้ผู้ชมคลิปหลายคนฉงนสงสัยถึงความเป็นเพศ เนื่องจากพวกเขามีลักษณะทางกายไม่ต่างจากผู้หญิง (กล่าวคือมีหน้าอก รูปร่าง และอวัยวะเพศหญิง) ผู้ชมคลิปหลายคนคงเชื่อในตอนแรกว่าน้องทั้งคู่เป็นผู้หญิง หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเป็นผู้หญิงถึงกล้าเปิดเผยเนื้อตัวร่างกายแบบไร้ซึ่งความอาย ชั้นเชื่อว่า ผู้ชมคลิปเพศชายจำนวนไม่น้อยรู้สึกสนุกเพลิดเพลินกับการดูคลิปเต้นเปลือยนี้ จนกระทั่งมารู้ในภายหลังว่าน้องทั้งคู่ไม่ใช่ผู้หญิง น้องทั้งคู่ได้สั่นคลอนฐานคิดเรื่องความเป็นชายของผู้ชายที่ไม่ควรมีอารมณ์ทางเพศกับคนที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่าผู้ชาย นี้อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ความคิดเห็นต่อคลิปวีดีโอดังกล่าวจากผู้ชมเพศชายเต็มไปด้วยคำพูดดูถูก เหยียดหยาม และแฝงด้วยความรุนแรงอย่างน่ากลัว
น้องทั้งคู่ยังท้าทายคุณค่าความเป็นหญิง หรือมารยาทของผู้หญิงตามหลักศีลธรรมแบบไทย ว่าการกระทำดังกล่าวของคนทั้งคู่เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เนื่องจากน้องทั้งคู่ถูกมองจากผู้ชมคลิปว่ามีความเป็นผู้หญิง และมีลักษณะทางกายภาพของเพศหญิง ทำให้ผู้ชมหลายคนผูกความเป็นเพศเข้ากับมารยาทและคุณค่าของผู้หญิง คุณค่าที่สร้างมาเพื่อกดทับผู้หญิง และบุคคลที่ปรารถนาจะข้ามเพศเป็นหญิง ในทางตรงกันข้าม ถ้าน้องทั้งคู่ไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายผู้หญิง เรื่องดังกล่าวคงกลายเป็นแค่ความตลกขบขันของผู้ชมคลิปวีดีโอนี้เท่านั้น
บางทีกะเทยอย่างชั้นอาจจะต้องมานั่งทบทวนใหม่ว่าถ้าชั้นจะสวยอย่างผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ได้รับของแถมคือการปฏิบัติตัวให้มีความเป็นหญิงตามที่สังคมไทยคาดหวัง ประหนึ่งซื้อแชมพูสระผมต้องซื้อครีมนวดผมนั้น ชั้นอาจจะขอสระผมกับแชมพูแบบไม่ใช้ครีมนวด เพราะชั้นไม่แน่ใจว่าชั้นจะสามารถเป็นกะเทยตามกรอบความเป็นหญิง เพราะกะเทยนักปฏิวัติทางวัฒนธรรมอย่างชั้นอยากเป็นผู้หญิงที่มีสิทธิเสรีภาพในเนื้อตัวร่างกายตัวเอง มีสิทธิแสดงออกทางกายและวาจาอย่างเสรี และไม่สยบยอมกับความอยุติธรรมระหว่างเพศ หรือความไม่เป็นธรรมที่หญิงทำไม่ได้แต่ชายเท่านั้นที่ทำได้
ปรากฏการณ์เต้นเปลือย “แน่นอก” ท้าท้ายบรรทัดฐานทางเพศ และคุณค่าเรื่องเพศตามมาด้วยบทลงโทษที่ไม่ยุติธรรมนัก ทั้งที่น้องกะเทยทั้งคู่ควรมีสิทธิสมบูรณ์ต่อเนื้อตัวร่างกายของตัวเอง จะโชว์จิ๋มที่ตัวเองเสียเงินร่วมแสนหรือมากกว่าก็ควรจะเป็นสิทธิของคนทั้งคู่ รัฐที่ไม่เคยสนใจเรื่องจิ๋มกะเทย ไม่มีระบบสาธารณะสุขที่ให้บริการประชาชนกะเทยในประเทศ (ซึ่งแตกต่างจากประเทศทางตะวันตก ที่ระบบสาธารณะสุขครอบคลุมการบริการสุขภาพสำหรับคนข้ามเพศ) กลับอยากมีเอี่ยวด้วยเมื่อกะเทยลุกขึ้นมาโชว์จิ๋มที่รัฐไม่มีส่วนร่วม ด้วยการคาดโทษปรับ จำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ รัฐไทยใช้กรอบความเป็นหญิงควบคุมกะเทยที่เหมือนหญิง แต่ละเลยการคุ้มครองสิทธิพื้นฐานตามความต้องการของกะเทย เช่นการเปลี่ยนคำนำหน้านามกะเทย ที่หลายประเทศในตะวันตกอนุญาตให้คนข้ามเพศเปลี่ยนคำนำหน้า รวมถึงเปลี่ยนสูติบัตรในบางประเทศ เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนคนข้ามเพศเหล่านั้น
สังคมไทยกำลังผลิต “กุลสตรีไทย” ราวกับผลิต “ตุ๊กตาบาร์บี้” ที่มีความแตกต่างในเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม และเครื่องแต่งกาย ซึ่งสุดท้ายบาร์บี้ก็ต้องถูกจับลงกล่อง เสมือนกับหญิงไทยหรือบุคคลใดก็ตามที่นิยามว่าตนเป็นผู้หญิงหรืออยากจะเป็นผู้หญิงต้องใช้มาตรฐานทางศีลธรรมของไทยเพื่อจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงไทยใจงาม (แต่ขาดเสรีภาพในการแสดงออกทางกายและวาจา) เพราะพวกเธอถูกกำหนดให้ต้องใส่เสื้อผ้าในชุดที่สังคมอยากเห็น แต่งหน้าทำผมให้งามแบบไทย รวมถึงมีกิริยาวาจาที่งามสง่าราวกับถูกตั้งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ไว้ ที่ร้ายไปกว่านั้นระบบตรวจสอบมาตรฐานทางศีลธรรมก็มีรอบด้านแบบ 360 องศา ตุ๊กตาตัวไหนไม่ผ่านมาตรฐานก็ถูกคัดออกเพราะเดี๋ยวจะทำให้เสียชื่อเสียงยี่ห้อสินค้าที่เมคอินไทยแลนด์
กะเทยอย่างชั้นไม่เห็นด้วยที่จะบอกว่าน้องกะเทยทั้งคู่ได้รับบทเรียนในความประพฤติที่ประมาทของตน แต่สังคมไทยควรคิดทบทวนปรากฏการณ์ดังกล่าวในมุมกลับ ซึ่งบางทีพวกเราทุกคนจะต้องกล่าวขอบคุณน้องกะเทยทั้งคู่ ที่ออกมาเต้นเปลือยเพลง “แน่นอก” พร้อมยกย่องให้พวกเธอเป็นนักปฏิวัติทางวัฒนธรรมแบบเมคอินไทยแลนด์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น