ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ถ้าวันหนึ่ง...

ถ้าวันหนึ่ง...

ประชากรส่วนใหญ่บนโลกเป็นเกย์กะเทยทอมดี้ ... คนรักต่างเพศจะเป็นคนกลุ่มน้อย

ผู้ปกครองประเทศส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

ผู้ชายสามารถท้องแทนภรรยาด้วยนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์

ห้องน้ำไม่แยกหญิงชาย แต่เป็นห้องน้ำ Unisex ที่ใครเพศใดจะเข้าก็ได้ 

คนสามารถเลือกเพศได้ในเอกสารทางราชการ ... เลือกที่จะเป็นนางสาวหรือนางก็ได้เมื่อแต่งงาน

ใครจะแต่งงานกับใครก็ได้ เรื่องความรักเป็นเรื่องของคนสองคน

ศาสนาจะไม่ใช่เหตุผลของการทำสงคราม

ระบบการศึกษาจะมีบทเรียนเรื่องเพศสำหรับเยาวชน ที่ครอบคลุมไปถึงเรื่องความเป็นเพศที่หลากหลาย

ครูอาจารย์จะไม่ใช่ศูนย์กลางของการเรียนการสอน แต่การศึกษาเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้เรียนและผู้สอน โดยผู้เรียนมีส่วนช่วยคิดแผนการเรียน

การนับถือศาสนาเป็นทางเลือก ศาสนาจะไม่ใช่เครื่องมือตัดสินความผิดถูก แต่เป็นสถาบันที่ช่วยพัฒนาความเป็นมนุษย์ และจิตวิญญาณของมนุษย์เพื่อนำไปสู่ความผาสุกของสังคม

ประชาชนสามารถมีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมือง รัฐจะมีพื้นที่สำหรับคนที่เห็นต่างได้แสดงออก (การเมืองแบบสองขั้วต่างเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสังคมประชาธิปไตย)

ระบบสาธารณสุขเป็นบริการทางสังคมสำหรับคนทุกชนชั้น วาทกรรมทางการแพทย์จะไม่ใช่วาทกรรมที่กดทับคนบางกลุ่ม หรือเอื้อประโยชน์กับคนแค่บางกลุ่ม

ผู้มีอำนาจในสังคมจะเรียนรู้การใช้อำนาจแบบ "อำนาจร่วม" แทนการใช้อำนาจแบบ"อำนาจเหนือ"

ถ้าวันหนึ่ง ... เราจะเห็นโลกเปลี่ยนไป




ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กะเทยเลส : "ชาย" "หญิง" หรือ "ใคร"

สังคมไทยเป็นสังคมรักต่างเพศนิยมแบบเห็นได้ชัดจากกรณีข่าวดังของกะเทยเลส ซึ่งเปิดตัวผ่านสื่อว่า "ฉันคือกะเทยที่ชอบผู้หญิง" ถ้าได้ติดตามอ่านข่าว และโพสตามหน้าเฟชบุ๊คในเพจต่างๆ จะทราบว่าโพสเรื่องกะเทยเลสจะเต็มไปด้วยความเห็นที่หลากหลายในแบบเห็นด้วย และเห็นต่าง สิ่งที่น่ากลัวที่สุด คือ ความเห็นแบบเห็นต่างที่แฝงไปด้วยความรุนแรง และการตัดสินที่แฝงไปด้วยอคติ แสดงให้เห็นว่า สังคมไทยและวัฒนธรรมไทยทำให้คนพร้อมที่จะตัดสินคนคนหนึ่งที่มีความต่างในเรื่องเพศวิถี ที่ต่างไปจากบรรทัดฐานของสังคมรักต่างเพศนิยม เพราะกะเทยชอบผู้หญิงถูกมองว่าผิด แปลก และต้องได้รับการลงโทษที่ไม่ใช้การลงโทษทางกายให้เจ็บปวด แต่เป็นการลงโทษที่แนบเนียนกว่า นั่นคือ การลงโทษด้วยการตัดสิน และเห็นว่าความต่างคือความแปลก และไม่เหมาะสม เมื่อกะเทยเลสจะชอบผู้หญิง และกลายเป็นพฤติกรรมที่คนในสังคมจับจ้อง และพยายามจัดการควบคุม เพราะหลายคนเห็นว่ากะเทยอยากเป็นผู้หญิง กะเทยจะเป็นปกติต้องชอบผู้ชายเท่านั้น กะเทยจะชอบผู้หญิงจึงเป็นเรื่องไม่ปกติ หลายคนคงลืมคิดไปว่าเพศวิถีเป็นสิทธิฯ ใครจะรักใครจึงเป็นสิทธิ และความสุขของคนคนนั้น ไม่น่าแปลกใจว...

หยุด "กลัว" กะเทย

“เกิดเป็นกะเทยเสียชาติเกิด” “กรรมเก่า … ทำความดีในชาตินี้จะได้เกิดเป็นชายจริงหญิงแท้ในชาติหน้า” “กะเทยควาย กะเทยหัวโปก กะเทยลูกเจี๊ยบ …” “กะเทยห้ามบวช ห้ามเป็นทหาร ห้ามเป็นหมอ ห้ามเป็นครูอาจารย์ ห้ามแต่งหญิงในที่ทำงาน!!!” “กะเทยต้องแต่งหน้า ทำผมเก่ง เต้นเก่ง และ “โม๊ก” เก่ง … ต้องตลก และมีอารมณ์ขัน” ฉันเชื่อว่ากะเทยหลายคนเติบโตมากับเสียงสะท้อนเหล่านี้จากสังคม คนรอบข้าง และจากเพื่อนกะเทยด้วยกัน หลายครั้งชีวิตของคนคนหนึ่งไม่ได้มีอิสระในการเลือกตามความเข้าใจของพวกเรา เมื่อ “ความเป็นเรา” ถูกทำให้เป็นอื่น หรือ “แปลก” และ “แตกต่าง” ความเป็นเราจึงถูกจำกัดทำให้บางครั้งคนคนหนึ่งไม่สามารถเลือกได้ว่า จะใช้ชีวิตแบบใด หรือมีความสนใจในเรื่องใด เพราะเขาหรือเธอไม่อยาก “แปลก” หรือให้ใครเห็นว่าพวกเขา“ต่าง” จากคนอื่นๆ เมื่อการเป็นกะเทยถูกทำให้เป็นเรื่อง “แปลก” ในสังคมไทยที่พร้อมจะตัดสินความแปลกเป็นความ“ผิด” หรือ “ผิดปกติ” เสียงสะท้อนจากสังคม คนรอบข้าง รวมถึงกะเทยคนอื่นๆ จึงจำกัดจินตนาการ และวิถีชีวิตที่หลากหลายของการใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ นอกจากนี้การตัดสินว่ากะเทยคนหนึ่งต้องทำหรือไม่ทำอ...